วันศุกร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2553

เลือกเรียนถูกที่มีชัยไปกว่าครึ่ง


อายุ 18 ปี กำลังศึกษาระดับปริญญาตรีใบที่สอง ยังไม่ได้ประกอบอาชีพ
สาวน้อยที่เห็นบรรดาพี่ๆเรียนนิติศาสตร์แล้วรู้สึกอยากลองเรียนดูบ้างและลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น เธอเรียนได้ดีทีเดียว โดย "นา" จบการศึกษาจบระดับปริญญาตรีคณะนิติศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง รุ่นที่ 33 และจบเนติบัณฑิตจากสำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภารุ่นที่ 61 ปัจจุบันกำลังศึกษาในระดับปริญญาตรีคณะบริหารธุรกิจ สาขาการบัญชี
"เรียนม.รามกับโครงการ PRE DEGREE เหมือนพี่ ๆ ค่ะและใช้เวลาศึกษาทั้งหมดสามปี ขณะเรียนอยู่ชั้นปีที่ 1-2 ก็ศึกษาระดับมัธยมปลายที่ ก.ศ.น.พร้อมกันไปด้วย จากนั้นก็ศึกษาต่อที่สำนักอบรมศึกษากฎหมายเนติบัณฑิตยสภา ใช้ระยะเวลาศึกษา 1ปีครึ่งค่ะ" นาบอกเคล็ดลับในการเรียนของเธอว่าต้องอ่านหนังสืออย่างสม่ำเสมอ ไม่ใช่อ่านก่อนสอบเท่านั้นและต้องเข้าเรียนในห้องเรียนเป็นประจำด้วย เธอเล่าว่ามีคติในการเรียนอย่างหนึ่งที่นำมาใช้จนประสบความสำเร็จหากใครอยากจะนำไปใช้ก็ได้ไม่ว่ากันคือ "รากโคนของการเรียนนั้นมีรสขม หากแต่ส่วนผลนั้นหอมหวาน"
"สำหรับดิฉันคิดว่าการที่มีพี่เรียนที่เดียวกันคณะเดียวกันก็ดีตรงที่ว่าไม่เข้าใจอะไรก็มีพี่ไว้คอยปรึกษาได้การลงทะเบียนเรียนพี่ก็ช่วยดูว่าวิชาไหนควรลงเรียนก่อนหลังควรเตรียมตัวเรียนอย่างไรบ้าง ตอนนี้ก็จบเนติบัณฑิตแล้วอยากเรียนต่อปริญญาโท และถ้าจบโทต่อไปอาจทำงานในสายกฏหมายเพื่อเก็บอายุงานรอสอบผู้พิพากษาหรืออัยการเมื่ออายุครบ 25ปี ดิฉันคิดว่าสำหรับผู้หญิงแล้วก็ไม่มีอะไรต่างกับผู้ชายด้านการเรียนหรอกค่ะเพราะขึ้นอยู่กับว่าใครจะขยัน ใครจะไขว้คว้าหาความรู้ได้มากกว่ากัน และในปัจจุบันก็มีผู้พิพากษาหรืออัยการที่เป็นผู้หญิงอยู่มากซึ่งบางทีผู้หญิงก็อาจมีความรอบคอบมากกว่าผู้ชายอีกด้วย"สาวน้อยนักกฎหมายวัยเยาว์กล่าวทิ้งท้ายในที่สุด


นิตยสารการศึกษาอัพเกรด ฉบับ 120

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น